เทคนิค การจัดโซนโต๊ะทำงานในบ้าน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เทคนิค การจัดโซนโต๊ะทำงานในบ้าน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

  03:43:00    Compaxtus

---

ถึงแม้ว่าบ้านจะเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อน แต่เราก็ไม่วายที่จะหอบงานกลับมาทำที่บ้าน หรือบางคนอาจจะเป็น ฟรีแลนซ์ที่ต้องการพื้นที่ที่สงบสำหรับการนั่งทำงานที่บ้าน ครั้งนี้บ้านคอนกรีตสำเร็จรูป คอมแพ็คตัส (Compaxtus) เรามีไอเดียการจัดโซนทำงานที่มีประสิทธิภาพ ที่ได้ทั้งความสวยงาม และยังใช้หลักการของพฤติกรรมในการใช้งานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด

 

1.      ใช้พื้นที่กำแพงให้คุ้มค่า

เพราะการทำงานหรือการเรียนหนังสือ ไม่ใช่แค่การมีโต๊ะอ่านหนังสือเพียงตัวเดียว ดังนั้นสิ่งของประกอบการทำงาน ต้องพร้อมหยิบจับได้ทุกเมื่อที่ต้องการ หากได้จัดโต๊ะทำงานใหม่ รับรองว่าประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นแน่นอน

2.      โต๊ะตัวเดียว ใช้พื้นที่ร่วมกัน

เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่คำนึงถึงการใช้งานดั่งเช่นโต๊ะตัวยาว เหมาะสำหรับที่นั่งทำงาน 2 คน ที่ต้องอาศัยการคุยงานปรึกษากันตลอดเวลา 

3.      จัดการเรื่องจุกจิกในชีวิตอย่างเป็นระเบียบ

การนำอุปกรณ์สำหรับจัดการสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน ติดตั้งอยู่บริเวณโต๊ะทำงาน เช่นอุปกรณ์สำหรับใส่แยกแฟ้ม บิลค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต สมุดไดอารี่ ตารางนัดหมาย ก็เป็นแนวคิดที่จะให้การทำงานเป็นระเบียบขึ้น ตรงตามเป้าหมายในแต่ละวัน

4.      อย่าลืมจัดการของในลิ้นชักด้วย

แม้หน้าที่ของลิ้นชักคือเอาไว้ใส่ของ แต่การหาของในแต่ละทีถ้าไม่มีการจัดการอาจจะทำให้เราหัวเสียเอาง่ายๆ จะดีกว่านี้ถ้าหาได้ไวขึ้นการทำงานก็จะไม่สะดุด ความคิดก็จะโลดแล่น 

5.      ใช้โคมไฟอ่านหนังสือ แทนแสงไฟฟลูออเรสเซ้นจากเพดาน

เพื่อป้องกันอาการแสบตา ตาพล่า ควรใช้ควรใช้หลอดตะเกียบที่มีแสงสีนวล (warm white) ใส่ในโคมไฟตั้งโต๊ะ ที่สามารถปรับระดับระยะให้พอดีกับแสงที่เราสบายตาที่สุด โดยตำแหน่งที่เหมาะสมคือ ด้านหน้าซ้ายมือของโต๊ะเพื่อไม่ให้เกิดเงาขณะที่เราเขียนหนังสือบนโต๊ะ

6.    รองพื้นด้วยแผ่นรองหรือพรม

ไม่ใช่แค่ต้องการความสวยงาม การรองพื้นใต้โต๊ะทำงานด้วยพรมจะช่วยกันเก้าอี้เลื่อนในขณะนั่งทำงาน ไม่ทำให้เกิดรอยบนพื้น แถมยังช่วยให้เกิดความสบายเท้าในขณะนั่งทำงานอีกด้วย

 

7.    ปรับอารมห์แจ่มใสด้วยต้นไม้

การมีต้นไม้บนโต๊ะทำงานจะช่วยปรับอารมห์ของคุณให้เย็นลง ช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า และยังช่วยเสริมจินตนาการด้วย

8.    มีแสงสว่างจากธรรมชาติ

ห้องทำงานอย่างน้อยควรมีแสงสว่างจากภายนอกบ้าง สิ่งแรกที่ได้คือความประหยัดจากการที่ไม่ต้องเปิดไฟในการทำงานช่วงกลางวัน แต่สิ่งที่ได้ตามมาคือ จินตนาการที่บรรเจิด ยามคิดงานไม่ออกหรือขาดจินตนาการลองมองออกไปข้างนอกอาจจะพบสุดยอดไอเดียก็ได้ 

Read More

5 แบบทรงหลังคาบ้านที่นิยมใช้ในประเทศไทย

5 แบบทรงหลังคาบ้านที่นิยมใช้ในประเทศไทย

  19:59:00    Compaxtus

---

'หลังคา' เป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของบ้านเนื่องจาก เป็นส่วนที่ป้องกันแสงแดด ฝุ่นละออง สายฝน หรือแม้กระทั่งลูกเห็บ ซึ่งคุณสมบัติก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เรานำมาใช้มุงหลังคา อีกทั้งทรงหลังคาที่แตกต่างกันก็บ่งบอกถึงสไตล์หรือรสนิยมของผู้อยู่อาศัยด้วย วันนี้บ้านคอนกรีตสำเร็จรูป compaxtus จะขอนำทุกท่านทำความรู้จักเกี่ยวกับทรงหลังคาบ้านในรูปแบบต่างๆ ที่นิยมใช้ในประเทศไทย รวมถึงข้อดี ข้อเสีย ทรงหลังคาในแต่ละชนิดมาให้ชมกันครับ

             1. หลังคาทรงหน้าจั่ว (gabled roof)

หากพูดถึงคำว่าบ้าน หลายๆท่านคงนึกถึงหลังคาหน้าจั่วเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นที่นิยมกันแพร่หลาย
cr.ภาพ Houzz

    ข้อดี 
- มีความลาดเอียงขององศาสูง ระบายน้ำได้เร็ว ไม่ทำให้น้ำรั่วซึมง่าย  

- ทรงหน้าจั่วมีพื้นที่การระบายอากาศที่มาก หากมีช่องระบายอากาศที่ดี ก็จะทำให้บ้านเย็นได้

   ข้อเสีย

-     ทรงหน้าจั่วส่วนใหญ่ส่วนของชายคาไม่กว้าง ไม่คลุมบริเวณตัวบ้านมากพอ อาจจะทำให้เม็ดฝน หรือแสงแดด สามารถเทเข้าถึงตัวบ้านได้ง่าย

-     รูปทรงไม่ทนต่อแรงพายุ ถ้าติดตั้งไม่ดีอาจจะทำให้ชิ้นส่วนของบ้านถูกลมพายุพัดพาไปได้ง่าย

                2.  หลังคาทรงปั้นหยา (Hip roof)

อีกหนึ่งแบบของทรงหลังคาบ้านที่มีความนิยม ด้วยคุณสมบัติและความสวยงามเรียกว่าเป็นอันดับต้นๆ cr.ภาพ oldecors.com

 

ข้อดี

-           - มีความสามารถในการกันแดด กันฝนสม่ำเสมอเท่ากันทุกด้าน

-          -  รูปทรงทนมีความสเถียร์ต่อแรงปะทะแรงลมพายุได้เป็นอย่างดี

-           - มีพื้นที่ช่องอากาศมากที่ใต้หลังคา สามารถระบายอากาศทางใต้ชายคา ทำให้บ้านเย็นได้

     ข้อเสีย

-           - หลังคาทรงปั๊นหยามีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูง เนื่องจากพื้นที่ที่ใช้วัสดุปิดผิวหลังคามีปริมาณพื้นที่ที่มากกว่า และในส่วนของโครงสร้างหลังคาที่มีความซับซ้อน

-          - การระบายความร้อนผ่านทางช่องชายคาอย่างเดียว หากปิดชายคาที่ไม่มีการระบายความร้อน หรือไม่ใช้ฉนวนความร้อนร่สมด้วย ก็จะทำให้บ้านร้อนได้

3. หลังคาคอนกรีตสแลบ หรือ หลังคาดาดฟ้า (Flat Roof)

เป็นทรงที่นิยมใช้กันตามอาคารพาณิชย์ สำนักงาน และบ้านสไตล์โมเดริน์ต่างๆ 

      ข้อดี

-           - ได้พื้นที่ดาดฟ้าสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ หากมีการเชื่อมต่อทางออกไปดาดฟ้าได้

-           -  ดูเรียบง่าย สวยงามสไตล์โมเดริน์

      ข้อเสีย

-          -  มักจะเกิดปัญหาเรื่องน้ำรั่ว เนื่องจากต้องอาศัยระบบระบายน้ำจากท่อ ต้องป้องกันและดูแลเป็นพิเศษกว่าหลังคาประเภทอื่นๆ

-           - การเทคอนกรีต รวมถึงวัสดุกันซึม ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงกว่า การใช้วัสดุปิดพื้นผิวหลังคา

-           - เกิดปัญหาเรื่องความร้อน เนื่องจากทรงแบน พื้นที่สัมผัสแสงแดดค่อนข้างมากกว่าแบบอื่น

4. หลังคาเพิงหมาแหงน (Lean-to Roof)

เป็นทรงหลังคาที่แสดงออกถึงความโมเดริน์ การก่อสร้างง่าย ต้นทุนต่ำ นิยมใช้เพื่อการก่อสร้างที่พักอาศัยชั่วคราว เช่น ร้านค้า รีสอร์ท 

       ข้อดี

-          -  ค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ เนื่องจากโครงสร้างไม่ซับซ้อน และใช้เวลาในการก่อสร้างที่เร็วกว่าทำให้ประหยัดเรื่องของค่าจ้างแรงงาน

-          -  ดูทันสมัย สวยงามดั่งเช่นหลังคาคอนกรีตสแลบ

       ข้อเสีย

-           - สามารถกันแดดกันฝนได้เพียงทิศทางเดียว ยกเว้นว่ามีการติดกันสาดเพิ่มเติมก็สามารถช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง

-           - ควรติดตั้งรางน้ำฝน เพราะการระบายน้ำจะเทไปเพียงข้างเดียว

                5. หลังคาทรงมะนิลา (Dutch Gable Roof) 

เป็นรูปแบบหนึ่งของการนำทรงหลังคา 2 ชนิดมาผสมผสานกัน คือ หลังคาทรงปั้นหยา และหลังคาหน้าจั่ว 

ข้อดี

-           - มีรูปทรงจากทรงปั้นหยา สามารถช่วยลดแรงประทะแรงลมได้ดี

-          -  สามารถกันแดด กันฝนได้ทุกๆด้านของตัวบ้าน

-           - มีการระบายอากาศที่ดี บริเวณช่องหน้าจั่ว

        ข้อเสีย

-          -   มีจุดเชื่อมต่อหลังคาค่อนข้างเยอะ ทำให้เกิดโอกาสในการเกิดน้ำรั่วซึมสูง ขึ้นอยู่กับฝีมือของช่าง

-           - การก่อสร้างค่อนข้างซับซ้อน และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างค่อนข้างสูง 

 บ้านจาก Compaxtus เราเลือกทรงหลังคาแบบปั้นหยา(Hip roof)

 เพราะเราคิดว่ามีความเหมาะสมที่สุดกับสภาพอากาศเมืองไทย มีความสเถียรและคงทนถาวร ถึงแม้ว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าหลังคาในบางแบบ แต่เชื่อมั่นได้เลยว่า จะเป็นทรงหลังคาที่เหมาะสมกับการเป็นที่พักอาศัยในระยะยาวของคุณแน่นอน

Read More

เมื่อจะซื้อบ้าน Compaxtus ต้องมีเงินเดือนเท่าไรดี ?

เมื่อจะซื้อบ้าน Compaxtus ต้องมีเงินเดือนเท่าไรดี ?

  02:03:00    Compaxtus

---

พนักงานประจำ ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ การกู้ธนาคารเพื่อปลูกสร้างหรือซื้อบ้านสามารถยื่นกู้ได้ง่ายกว่าอาชีพอิสระอื่นๆ เนื่องจากมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่มีภาระหนี้สินอื่นๆ หรือภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆที่สูงจนเกินไป มักจะกู้ผ่านได้ไม่ยาก โดยคนส่วนใหญ่มักสงสัยว่า “ฉันมีเงินเดือนเท่านี้ จะสามารถกู้ได้วงเงินสูงสุดเท่าไร” วันนี้ บ้านคอนกรีตสำเร็จรูป compaxtus ขอนำข้อมูลจาก ddproperty มาอธิบายกันนะครับ

จากข้อมูลของธนาคารพาณิชย์ การประเมินความสามารถในการแบกรับภาระหนี้ของลูกหนี้จะยึดหลักที่ 40% ของรายได้ต่อเดือนของลูกหนี้  มาใช้ในการคำนวณหา จำนวนเงินผ่อนต่องวด(เดือน)สูงสุด เช่นตัวอย่าง

ผู้กู้มีเงินเดือน 22,000 บาท ความสามารถในการจ่ายเงินผ่อนต่องวดอยู่ที่ 40%ของ เงินเดือน เท่ากับ (22,000 x 0.4) =  8,800 บาท 
ดังนั้น 8,800 บาทคือเงินผ่อนต่องวดสูงสุดที่ผู้กู้สามารถจ่ายได้ (เมื่อไม่มีภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินอื่นๆ)

แล้วเงินเดือน 22,000 บาท จะสามารถได้วงเงินกู้ได้วงเงินสูงสุดเท่าไร ?

คำนวณเบื้องต้นโดย เทียบ เงินผ่อนต่องวดสูงสุดที่ 6,000 บาท ต่อเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท 

ถ้าเงินผ่อนต่องวดสูงสุดอยู่ที่ 8,800 บาท สามารถกู้ได้สูงสุด 

(1,000,000 / 6,000) x 8,800 = 1,460,000 บาท

ดังนั้นสรุปได้ว่า ถ้าคุณมีเงินเดือน 22,000 บาท จะสามารถกู้ได้สูงสุดถึง 1,460,000 บาท

แต่ทั้งนี้ทางธนาคารจะพิจารณาจากส่วนประกอบอื่นๆด้วยเช่น อายุของผู้กู้ เงินออม หลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน ฯลฯ 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก DDproperty.com

Read More